กิจกรรมที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถ อันตรายที่คุณไม่ควรมองข้าม

กิจกรรมที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถ อันตรายที่คุณไม่ควรมองข้าม

ผู้ขับขี่เสียสมาธิเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่พบบ่อยขึ้นทุกวันบนท้องถนนในบ้านเรา ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือ การพิมพ์ข้อความ การใช้อุปกรณ์สื่อสารรุ่นใหม่ๆ หรือเครื่องเล่นต่างๆ ในขณะขับรถ หรือแม้แต่การทำกิจกรรมที่ทำให้ตนเองเสียสมาธิจากการขับรถที่เห็นบ่อยขึ้นทุกวัน เช่น กินอาหาร แต่งหน้า ดูทีวีในรถ และโดยเฉพาะปัจจุบันจะเห็นคนไทยเราใช้อุปกรณ์สื่อสารรุ่นใหม่ๆ ในขณะขับรถบ่อยขึ้น ซึ่งพฤติกรรมนี้นำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่สูงขึ้น 

เซฟ ไดรฟเวอร์ เอดูเคชั่น เป็นห่วงปัญหานี้ที่นับวันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักขับรถในบ้านเราทั้งหลาย จึงขอแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิซึ่งควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและเพื่อนร่วมทาง ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับสิ่งดึงดูดสมาธิผู้ขับขี่เสียก่อน 

 

สิ่งดึงดูดความสนใจต่างกันแต่ผลลัพธ์เหมือนกัน 

คำถามสั้นๆ ง่ายๆ คือระหว่างกินอาหาร สนทนากันและเปลี่ยนแผ่นซีดี อะไรถือเป็นเรื่องปกติที่ทำกันประจำ ถ้าหากคุณทำอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างนี้ในขณะขับรถ คุณจะเสียสมาธิทันที นั่นเพราะว่าสิ่งที่ทำให้คุณเสียสมาธิขณะขับรถมีหลายรูปแบบ ทั้งทางกายภาพ ทางจิตหรือทั้งสองอย่างรวมกัน

  • สิ่งดึงดูดสมาธิทางกายภาพเป็นเหตุให้คุณละสายตาจากการมองถนน หรือปล่อยมือจากพวงมาลัย ยกตัวอย่างเช่น คุณกำลังกินอาหารขณะขับรถ คุณอาจเหลือบมองอาหารนั้นเพื่อแกะเอากระดาษห่อออก หรืออาจเกิดการบดบังการมองเห็นทางสายตาของคุณเองในขณะที่คุณกำลังกิน การกระทำดังกล่าวทำให้คุณเสียสมาธิ ความสามารถในการตอบโต้กับสิ่งต่างๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปขณะนั้นช้าลงและทำให้ความสามารถในการควบคุมรถของคุณน้อยลงด้วย 
  • สิ่งดึงดูดสมาธิทางจิตจะนำพาจิตของคุณไปจากการขับรถ เมื่อคุณได้คุยหรือสนทนาไม่ว่ากับผู้โดยสาร หรือคุยผ่านอุปกรณ์ไร้สาย หรือผ่านโทรศัพท์มือถือก็ตาม จิตของคุณจะถูกกลืนไปกับการสนทนามากกว่าการขับขี่ 
  • ตัวของคุณอาจจะอยู่หลังพวงมาลัยแต่จิตของคุณยังอยู่ที่ออฟฟิศ ฉะนั้นคุณต้องให้ตัวเองหยุดพักเรื่องนั้น จดจ่ออยู่กับการขับขี่และทิ้งความเครียดไว้ข้างหลัง
  • สิ่งดึงดูดสมาธิแบบผสมที่รวมทั้งแบบทางกายภาพและทางจิตเข้าด้วยกัน คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกิจกรรมง่ายๆ เช่น เปลี่ยนแผ่นซีดี ในขณะที่คุณกำลังขับรถ คุณต้องหยิบเอาแผ่นซีดีที่คุณต้องการออกจากกระเป๋าใส่ซีดี เหลือบมองเพื่อหยิบใส่มือให้ถูกด้านและหาช่องใส่แผ่นและกดปุ่มเพื่อเล่น 


หากคุณทำเช่นดังกล่าว คุณจะละสายตาไปจากถนน มือก็จะออกจากพวงมาลัยและจิตของคุณก็ทำหน้าที่ประสานกิจกรรมต่างๆ เข้าด้วยกัน ในขณะที่คุณเปลี่ยนแผ่นซีดีนั้น รถก็จะวิ่งไปเองโดยอัตโนมัติ ไม่มีการควบคุมจากผู้ขับขี่

 

กิจกรรมอะไรบ้างที่คุณทำในขณะขับรถแล้วทำให้คุณเสียสมาธิ 

ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยคุณอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนว่า จากการตรวจสอบสถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้อุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ ได้แก่ การโทรศัพท์ขณะขับรถ ขับไปกินไป ดูโทรทัศน์ แต่งหน้า 

  • การโทรศัพท์ขณะขับรถ เพิ่มความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ 2-4 เท่า เพราะทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิ ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง การตัดสินใจเหยียบเบรก การบังคับพวงมาลัยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินช้าลงกว่าปกติ 0.5 วินาที และส่งผลต่อการมองเห็นป้ายสัญลักษณ์ ป้ายจราจร ป้ายบอกทาง แม้จะเห็นป้ายแต่จดจำรายละเอียดไม่ได้ 
  • ขับไปกินไป จากสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ ทำให้คนขับรถหรือผู้โดยสาร รับประทานอาหารบนรถเป็นภาพชินตา การขับไปกินไปเป็นพฤติกรรมเสี่ยง เพราะเหลือมือจับพวงมาลัยเพียงข้างเดียว ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถหักหลบหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทัน เพราะปฏิกิริยาตอบสนองในการขับขี่ช้าลงกว่าปกติ 2 เท่า หากกินอาหารของทอดจะทำให้มือเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน หากไปจับพวงมาลัยจะทำให้ลื่นกว่าปกติ ส่งผลให้การควบคุมพวงมาลัยลดลง 
  • การดูโทรทัศน์ขณะขับรถ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากความสว่างของจอภาพ เสียง รวมถึงเนื้อหาของภาพที่เคลื่อนไหว ทำให้สมาธิในการควบคุมรถลดลง และความสนใจต่อเหตุการณ์รอบตัวลดลง แม้คนขับจะไม่ได้ดูโทรทัศน์ แต่เสียงที่ได้ยินก็รบกวนสมาธิ และยังกระตุ้นให้ขับเร็วกว่าปกติอีกด้วย
  • การแต่งหน้าขณะขับรถ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก การแต่งหน้า ทาปากระหว่างรถติดสัญญาณไฟ หรือเคลื่อน ตัวช้าๆ จะทำให้สมาธิของผู้ขับขี่จดจ่ออยู่กับกิจกรรมที่ทำจนลืมไปว่ากำลังขับรถ 
  • การอุ้มเด็กนั่งตักขับรถ ทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง เนื่องจากเด็กอาจแย่งบังคับพวงมาลัย จนสมาธิของคนขับไม่อยู่ที่การขับรถ แต่กลับไปสนใจเด็กแทน ส่งผลให้ปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินช้ากว่าปกติ จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 

 

เวลาน้อย คนก็ยิ่งทำกิจกรรมต่างๆ หลายอย่างในคราวเดียวกัน 

ในขณะที่คุณกำลังขับรถอยู่คุณก็ได้ทำกิจกรรมหลายๆ อย่างในคราวเดียวกันโดยอัตโนมัติ เพราะอย่างน้อยคุณก็ควบคุมชิ้นส่วนของเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่กำลังพาคุณวิ่งไปด้วยความเร็วสูง ขณะเดียวกันคุณก็มองไปข้างหน้าเพื่อหาช่องทาง รักษาระยะห่างให้กับตัวเอง คำนวนความเร็วที่ใช้ ตอบโต้กับสิ่งที่กีดขวางข้างหน้าหรือรถคันอื่นๆ ที่อยู่รอบตัว การทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับการขับรถ อย่างเช่น การพูดคุยกับผู้โดยสารหรือเปลี่ยนคลื่นวิทยุก็สามารถที่จะทำให้คุณเสียการควบคุมรถหรือไม่สามารถตอบโต้กับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้

การปฏิบัติกับผู้โดยสารเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิอย่างหนึ่งที่ปรากฎในรายงานบ่อยๆ ผู้โดยสารที่อายุน้อยสามารถที่จะเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจของผู้ขับขี่ซึ่งนำไปสู่การเสียสมาธิขณะขับรถได้อย่างเป็นมาก โดยเฉพาะกับผู้ขับขี่ที่อายุยังน้อยและมีประสบการณ์ในการขับรถน้อย การจัดการดูแลเด็กหรือทารกย่อมต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ นักวิจัยพบว่าเด็กทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิขณะขับรถมากเป็น 4 เท่าและทารกเป็น 8 เท่าของผู้ใหญ่ 

การนำสัตว์เลี้ยงโดยสารรถ สัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มักไม่นั่งนิ่งอยู่กับที่และมีพฤติกรรมตื่นตกใจง่าย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติรอบตัวอาจกระโจนใส่คนขับรถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากต้องนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถ ควรให้มีคนนั่งไปด้วย เพื่อควบคุมพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง หากเป็นรถกระบะ ควรให้สัตว์เลี้ยงอยู่ท้ายกระบะรถโดยผูกเชือกหรือล่ามโซ่ยึดไว้กับรถ

การอ่านป้ายโฆษณาต่างๆ ริมถนน หลายท่านอาจคิดไม่ถึงว่าป้ายโฆษณาต่างๆ ที่อยู่ริมถนนจะเป็นปัญหาต่อการขับขี่ของตนเอง แต่ความจริงแล้วป้ายเหล่านี้อาจทำให้ท่านตกอยู่ในความเสี่ยงได้ เพราะคนขับรถหลายคนเสียสมาธิจากการมองป้ายหรืออ่านป้ายโฆษณาเหล่านี้ ในขณะที่รถก็กำลังวิ่งอยู่ ลองคิดดูว่า ถ้าท่านขับรถด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. และละสายตาไปมองป้ายหรืออ่านป้าย 2 วินาที รถของคุณจะวิ่งไปเท่าไหร่ อย่าลืมว่าใน 2 วินาทีที่คุณมองป้ายนั้นคุณไม่ได้มองถนนเลย ที่แย่ไปกว่านั้นคือป้ายโฆษณาที่ติดไฟระยิบระยับเพราะมันยิ่งดึงดูดความสนใจของคนขับรถได้มากโดยเฉพาะในตอนกลางคืน

 

พึงระวังว่าการเสียสมาธิขณะขับขี่รถยนต์เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณโดยตรง

จากการเก็บข้อมูลทางการศึกษาพบว่าผู้ขับขี่ถึงร้อยละ 84 ต่างเห็นว่าการเสียสมาธิขณะขับขี่รถยนต์เป็นปัญหาใหญ่ และกว่าครึ่งของผู้ขับขี่เหล่านี้ยอมรับว่าคุยโทรศัพท์ขณะขับขี่รถยนต์ และร้อยละ 14 ยอมรับว่าตัวเองเคยได้อ่านและพิมพ์ข้อความขณะขับรถ คิดดูว่าอะไรบ้างที่ทำให้คุณเสียสมาธิขณะขับขี่รถยนต์ และคุณได้ทำอะไรบ้างขณะที่ขับรถแล้วคุณไม่ต้องการเห็นคนอื่นทำ

  • ห้ามแตะต้องอุปกรณ์ - ปรับเบาะที่นั่ง ตัวควบคุมอุณหภูมิห้องโดยสาร ระบบเครื่องเสียง และอื่นๆ ก่อนออกรถหรือในขณะที่รถจอดอยู่ การที่คุณรู้ว่าตัวควบคุมแต่ละอันอยู่ที่ไหน ทำงานอย่างไร เมื่อคุณจำเป็นต้องปรับขณะขับจะช่วยให้คุณเสียสมาธิน้อยลง ให้ปรับคลื่นวิทยุและตัวควบคุมอุณหภูมิก่อนหรือให้ผู้โดยสารช่วยปรับให้ 
  • ห้ามกินหรือดื่ม - คนที่ขับรถเข้าร้านแบบซื้ออาหารผ่านหน้าต่าง หรือคนที่ชอบถือถ้วยอาหารใบใหญ่ๆ มีแนวโน้มที่จะกินอาหารขณะขับรถแต่คุณจะปลอดภัยกว่าหากคุณหยุดรถแล้วกินหรือดื่ม หากคุณหลีกเลี่ยงการกินอาหารขณะขับรถไม่ได้ อย่างน้อยให้กินอาหารที่กินง่ายไม่ยุ่งยาก ลดความเสี่ยงของคุณเป็นอะไรที่คุ้มค่าแก่เวลาที่คุณใช้ไป เช่นเดียวกันกับการสูบบุหรี่ขณะขับรถก็ทำให้เสียสมาธิ 
  • จอดรถในที่ปลอดภัยเพื่อคุยโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความหรืออีเมล์ -โทรศัพท์มือถือเป็นอะไรที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการขอความช่วยเหลือหรือรายงาน เมื่อเราอยู่ในสภาวะที่แย่ แต่เมื่อคุณใช้โทรศัพท์แบบยกหูคุย ซึ่งบางครั้งมันสามารถทำให้คุณเสียสมาธิทางกายได้ หรือแม้แต่แบบไม่ใช้มือยกหูหรือแฮนด์ฟรีก็ตามคุณก็จะเสียสมาธิทางจิตไปจากถนนได้เช่นกัน วิธีที่ดีที่สุดคือจอดรถในที่ปลอดภัยก่อนที่คุณจะคุยโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความหรือท่องอินเตอร์เน็ต (โปรดระวัง เพราะการจอดรถบนถนนอาจเป็นอันตรายได้ ให้หาที่ปลอดภัยห่างจากการจราจร) 
  • วางแผนล่วงหน้า - ศึกษาแผนที่และตรวจสอบสภาพการจราจรก่อนออกเดินทาง เพื่อที่คุณจะได้เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง หากเป็นไปได้ ให้ผู้โดยสารเป็นคนนำทางหรือเนวิเกเตอร์หรือผู้ช่วยคุณ บอกจุดหมายปลายทางของคุณก่อนออกเดินทาง 
  • อย่าทำกิจกรรมหลายอย่างในขณะขับรถ - การขับรถก็เป็นอะไรที่ยุ่งยากพอแล้ว คุณจะเสียสมาธิได้หากคุณทำอย่างอื่นไปพร้อมๆ กับการขับรถ อย่าใช้กระจกในรถเป็นกระจกสำหรับแต่งหน้าหรือเสริมสวยในขณะที่รถกำลังวิ่ง พยายามอย่าอ่านหรือเขียนในขณะขับรถ ให้ขับเพียงอย่างเดียว
  • จอดรถหากต้องการดูแลเด็กๆ - เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนอาหารแล้วเอาเขานั่งในเบาะสำหรับเด็ก คาดเข็มขัดนิรภัยให้ก่อนที่จะออกรถ หากคุณต้องการที่จะดูแลเด็กๆ ขณะที่คุณขับรถให้จอดรถในที่ปลอดภัยก่อน อย่าพยายามทำในขณะที่รถวิ่งอยู่

 

ช่วยวัยรุ่นแยกแยะและลดสิ่งที่ทำให้เขาเสียสมาธิขณะขับรถ 

ผู้ขับขี่มือใหม่มักเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เมื่อต้องขับรถ จากการรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยสำหรับยานพาหนะทางบกพบว่าผู้ขับขี่มือใหม่ที่เป็นวัยรุ่น มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในการขับรถ เป็น 4 เท่าของผู้ขับขี่วัยอื่นๆ นอกจากนั้นความเสี่ยงก็ยิ่งสูงหากมีผู้โดยสารในรถเยอะ ผู้ปกครองสามารถสอนบุตรหลานของตนเองให้รู้จักสิ่งที่ดึงดูดสมาธิขณะขับรถได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็น เช่น คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถ ทุกครั้งต้องมองถนนและจิตใจจดจ่อต่อการขับรถ

จำไว้ว่าวัยรุ่นขับรถ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงเป็น 4 เท่าของผู้ใหญ่ 

บริษัท เซฟ ไดรฟเวอร์ เอดูเคชั่น จำกัด

อาคาร สุพีเรียร์ เลขที่ 220/7-8 ถ.บอนด์สตรีท เมืองทองธานี ต. บางพูด อ. ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11120